ผม [ยุทธจักร หิรัญญา (เค)] ขออนุญาติแนะนำ GDI (Global Domain International Inc.) งานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์ ทำจริงได้จริง ผมเชื่อว่าทุกท่านที่เข้ามาที่นี่ หลายๆคนอาจเคยผ่านการทำงานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์มาบ้างแล้ว แต่ได้เงินน้อยมากไม่คุ้มกับที่ลงทุนไป เสียเงิน เสียเวลาไปเปล่าๆ หรือเคยทำธุรกิจออนไลน์งานผ่านเน็ตหรือธุรกิจเครือข่ายมา แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ โปรโมทเว็บก็แล้ว สแปมก็แล้ว แท็กเฟสบุ๊คก็แล้ว หรือส่งอีเมล์ขยะก็ทำแล้ว แต่การทำงานผ่านเน็ตก็ไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจไว้ใช่มั้ยครับ
บ้างก็โดนหลอก ทำงานผ่านเน็ตแทบเป็นแทบตายแต่ไม่ได้เงิน หรือ บางงานได้เงินแค่ช่วงแรกๆที่ทำ พอนานเข้าก็ปิดเว็บ ปิดบริษัทหนีหายไปเลยก็มี ถ้าทุกท่านผ่านประสบการณ์การทำงานผ่านเน็ตที่เลวร้าย มาแบบนี้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องเสียใจไปครับ เพราะว่ายังมีคนอีกมากมายที่เจอเรื่องแบบนี้มารวมทั้งตัวผมด้วย คิดแล้วยังเจ็บใจตัวเองไม่หาย
แต่หลังจากนั้นผมพยายามเสาะหาความรู้การทำงานผ่านเน็ต และทดลองทำงานผ่านเน็ตมาหลายๆอย่าง ลงทุนซื้อสื่อการสอน ซื้อตำราจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ หมดเงินไปเกือบหลักหมื่น ช่วงแรกก็พอจะมีรายได้มาบ้าง แต่แล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด คุณพระช่วย ผมโดนแบนอย่างไม่มีเหตุผล ความฝันของงานผ่านเน็ตพังทลายลงในชั่วข้ามคืน ความหวังที่ฝากไว้กับการหาเงินออนไลน์การทำงานผ่านเน็ต หายไปหมดสิ้น เคยคิดเหมือนกันครับที่จะเลิกหาเงินด้วยการทำงานผ่านเน็ต เคยคิดว่าธุรกิจออนไลน์มีแต่งานที่หลอกลวง
แล้วเหตุผลอะไรหล่ะที่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดหลายคนอาจสงสัยว่าในเมื่อผมล้มเหลวกับการทำงานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์มามากขนาดนี้ แล้วทำไมยังไม่เลิกทำหรือหางานอื่น ผมเคยคิดเหมือนกันครับ แต่ทุกคนย่อมมีความฝัน และงานที่จะตอบโจทย์และพาผมไปถึงฝันได้ก็คงมีแค่งานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์เท่านั้น เพราะอะไรนะหรือครับ ก็เพราะว่างานประจำที่ผมทำอยู่ เงินเดือนตอบแทนค่าแรงมันแค่น้อยนิดจะซื้อกินซื้อใช้ในแต่ละเดือนแทบไม่พอ แบบนี้ผมคงไปไม่ถึงจุดหมายของความฝันแน่ๆใช่มั้ยครับ เมื่อผมมาพบกับงานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์ GDI (Global Domain International Inc.) ก็มีความหวังอีกครั้ง ทุกท่านครับถ้ามีคนมาบอกทุกท่านว่า นักศึกษาอายุแค่ สิบเก้าปี เค้าสามารถมีรายได้หลักหมื่น ด้วยการทำงานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์ โดยใช้เวลาว่างระหว่างหยุดงานพักเที่ยงและตอนเลิกเรียนตอนเย็นเท่านั้น คุณจะเชื่อมั้ยครับ ทุกท่านหลายคนอาจไม่เชื่อ ถึงจะเชื่อแต่ก็คงไม่เต็มร้อยเปอร์เซนต์แน่ๆ แต่ทว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับการทำงานผ่านเน็ต ธุรกิจออนไลน์ จ่ายจริงที่ว่านี้ก็คือ GDI (Global Domain International Inc.) และผมก็เชื่อว่าทุกท่านทุกคนที่มาอยู่ตรงนี้ คุณก็ทำได้เช่นกัน GDI (Global Domain International Inc.) งานผ่านเน็ตธุรกิจออนไลน์ที่ใครๆก็ทำได้
มาพิสูจน์การทำงานผ่านเน็ตด้วยตัวคุณเองว่ามันจริงมั๊ยที่ผมบอกว่าการทำงานผ่านเน็ตนี้ใครๆก็ทำได้
GDI (Global Domain International Inc.) เปิดให้ทดลองการทำงานผ่านเน็ตฟรีเจ็ดวัน ครบเจ็ดวันจะทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่ที่คุณๆจะตัดสินใจ
ไม่ว่าคุณจะเป็นใครแค่ใช้ Internet เป็นก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของธุรกิจ GDI (Global Domain International Inc.) สามารถทำงานผ่านเน็ตได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถขยายไปได้ทั่วโลก ทำงานผ่านเน็ต ที่บ้านคุณ รับเงินดอลล่าร์ง่ายๆ กับบริษัทเติบโตเร็วที่สุดอันดับที่ 37 ของอเมริกา!!! องค์กร DSA ให้การรับรอง (GDI DSA MEMBER) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
http://www.sucess2012.ws
seo สมัยใหม่ ต้องเน้นคุณภาพ และจำนวนรวมลิงค์ที่มากกว่าเดิม
ผมเชื่อว่าตอนนี้ทุกท่านกำลังปวดหัวและกำลังวิตกกับอันดับ กูเกิ้ล อย่างแน่นอนครับ ถ้าหากเราทำคีย์เวิร์ดง่ายๆ อาจทำอันดับได้ปกติ ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไร แต่หากลงเล่นคีย์เวิร์ดกลาง - คีย์เวิร์ดชิงชัยสูงแล้ว เรียกได้ว่าอันดับขึ้นลงไปมา หลายๆท่านก็อาจมองว่าทำไมมันขึ้นลง อย่างไร้เหตุผล ส่วนตัวผมแล้ว คิดว่าอันดับเว็บยุค penguin 2.0 มีวัตถุปัจจัยคำนวณอันดับมากกว่าเดิมแน่นอน เพียงแค่ ลิงค์คุณภาพ และการปรับ ออนเพจคุณภาพ จึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการใช้คำนวณการจัดอันดับหลักอีกต่อไป ทุกวันนี้น่าจะมีการนำปัจจัยคำนวณอันดับเว็บมากมายอย่างแน่นอน เพราะเทคโนโลยีทางด้านอินเตอร์เน็ต พัฒนาไปอย่างมาก ผู้คนหันมาใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย กูเกิ้ล ก็ต้องการให้ เสิร์ชเอนจิ้น ของตัวเอง แสดงผลการค้นหาตาม Trend และความสนใจในเนื้อหาที่ผู้ค้นหาต้องการ ผมและทุกท่าน ก็ต้องปรับพฤติกรรมกันใหม่ ไม่ว่าหลายท่านจะยังใช้ เน็ตเวิร์คส่วนตัว ทำอันดับได้เหมือนในอดีต แต่ความไม่แน่นอน และความไม่ยั่งยืนของอันดับ ทำให้เราต้องหยุดคิดว่า ถ้าเราจะลงทุนเรื่อง เน็ตเวิร์ค ไปมากๆ แล้วครองอันดับไม่ถึงปี มันจะคุ้มค่าหรือไม่ เพราะต้องลงทุนสูง ส่วนใครบริหารจัดการเงินลงทุนและดอกผลได้อย่างมีศักยภาพก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่สมัย SEO ที่จะแตกต่างจากอดีต เราจะทำตัวเป็นนักทำ seo แบบเดิมๆ ไม่ได้อีกต่อไป การศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำ seo ยุคปัจจุบัน
ทำไมผมจึงบอกว่า \"เอสอีโอ ยุคใหม่ ต้องเน้นคุณภาพ และปริมาณลิงค์ที่มากกว่าเดิม\" คุณจะสามารถสร้าง ลิงค์คุณภาพ และข้อเขียนคุณภาพ ในปริมาณที่ไม่ต้องมาก เพื่อทำRankingสำหรับ คีย์เวิร์ด ที่มีการแข่งขันต่ำ แต่สำหรับคีย์เวิร์ด ที่มีการขับเคี่ยวกันสูง การปรับ ออนเพจ คุณภาพ และ แบ็คลิ้งค์ คุณภาพ ที่มีปริมาณไม่มาก ไม่สามารถติดRankingได้นิ่งและเสถียรอย่างแน่นอน ผู้ที่ได้เปรียบ คือ เว็บใหญ่ และเว็บที่มีค่า Rank สูงๆ ซึ่งหมายถึง Page Rank , ปริมาณคนเข้าเว็บ, การอัพเดทเว็บอย่างไม่ว่างเว้น คุณภาพของเว็บ ความน่าเชื่อถือของเว็บ ปริมาณการเชื่อมโยงไปยัง โซเชียลเน็ตเวิร์ค ฯลฯ คุณต้องมีเครือข่ายและเว็บในมือที่ใหญ่และสามารถกระจาย Content คุณภาพ ออกสู่สายตาผู้คนจำนวนมาก มันจึงจะสามารถทำให้เว็บคุณมีอันดับที่กระโดดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากการทดลองของผม คุณต้องมีเครื่องมือคุณภาพ และเครื่องมือส่ง content ไปยังเว็บคุณภาพในปริมาณที่มากและเป็นธรรมชาติ หากคุณไม่ทำให้เป็นธรรมชาติ ผลก็คือคุณจะหายไปจากระดับต้นๆ หากคุณทำถูกต้องเว็บคุณจะนิ่งอยู่กับที่และทนแรงเสียดทานจากระบบอัลกอริทึมที่มาตรวจสอบเว็บของคุณได้ หากคุณมีกลยุทธ์หรือวิธีทำให้เว็บของคุณกลายเป็น คีย์เวิร์ด ที่ทุกคนรู้จัก และชื่นชอบ แน่นอน กูเกิ้ล ก็จะชอบเว็บของคุณด้วยเช่นกัน หากมองในอีกด้านหนึ่ง มันจะเป็นประโยคต่อนักทำเว็บขนาดเล็กไหม? หรือมันเป็นการส่งเสริมเว็บใหญ่หรือเว็บที่เป็น Community หรือ เว็บคีย์เวิร์ด หรือเปล่า? และเราฐานะผู้พัฒนาเว็บขนาดเล็ก - ขนาดย่อม จะแข่งกับเว็บใหญ่ได้อย่างไร เราต้องปรับอะไรกับตัวของเราบ้าง เราจะใช้กลยุทธใหม่แข่งขันในตลาดออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นี่คือคำถาม และเราต้องตอบคำถามให้ได้
หากเราเป็น กูเกิ้ล แน่นอนว่าเราต้องการข้อมูลที่สดใหม่ และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงตรง และไม่ถูกบิดเบือน และที่สำคัญเป็นข้อมูลที่ผู้คนหาต้องการ เมื่อกลุ่มผู้ใช้งาน อินเตอร์เน็ต มีการพัฒนาตัวเองในการใช้สื่อOnlineที่แตกต่างจากเดิม มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว และเป็นลักษณะสังคมขนาดใหญ่ ข้อความ หรือข่าวสาร สามารถกระจายถึงกลุ่มคนในเครือข่ายเพียงแค่พริบตาเดียว พฤติกรรมของคนในการใช้ระบบอินเตอร์เน็ต รวดเร็วมากขึ้น เสิร์ชเอนจิ้นก็ต้องปรับให้มันตรวจสอบและสามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคน นักทำ SEO อย่างเราๆท่านๆ ไม่ได้มีกลไกลหรือระบบใหญ่พอที่จะตาม กูเกิ้ล อัลกอริทึ่ม และรองรับระบบ AI ของเสิร์ทเอนจิ้นได้ทัน การทำ seo ณ.วันนี้มันจึงยากขึ้น และหากคนพัฒนาการใช้งานอินเตอร์เน็ตไปอีกขั้น ความยากในการทำ seo ก็จะเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าความรู้พื้นฐาน เอสอีโอ ยังคงใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย แต่ด้วยกำลัง และระบบของการทำ seo ที่มาจากกลุ่มคนหรือเพียงคนๆเดียว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอันดับได้รวดเร็วอีกต่อไป
เราจะรับมือกับความแปรผันนี้อย่างไร? มันเป็นคำถามที่ชวนให้ขบคิดไม่น้อยเลย เพราะเราจะต้องพัฒนาขีดประสิทธิภาพของเราให้แตกต่างไปจากเดิม อัพเกรดและติดเกาะเพื่อทำสงครามอันดับในยุคที่เน้นคุณภาพและปริมาณ คำว่า ปริมาณ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ แบ็คลิ้งค์คุณภาพ เพียงอย่างเดียว คุณต้องทำให้เว็บของคุณ เชื่อมต่อกับ โซเชียลเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่ และเป็นธรรมชาติ คำว่า โซเชียลเน็ตเวิร์ค ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่ facebook, Google+, twitter, youtube เท่านั้น แต่มันคือเครือข่ายสังคมที่เชื่อมโยงเข้าหาเว็บของคุณ และมีการกระจายข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว็บคุณอย่างมีความสัมพันธ์กันในเชิงคุณภาพ นักทำ เอสอีโอ ยุคใหม่ จะต้องมีทักษะความรู้รอบด้าน ทั้งการเขียนโปรแกรม เขียนสคริป เข้าใจคำว่าคุณภาพในมุมมองของ เสิร์ชเอนจิ้น ตลอดจนเป็นผู้ที่มีเครื่องมือ หรือระบบที่สามารถตอบสนองความต้องการของ เสิร์ชเอนจิ้น ที่มีความต้องการด้านข้อมูลข่าวสารในปริมาณที่มาก น่าเชื่อถือ และมีความสัมพันธ์กับเว็บของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยใช่มั้ยล่ะครับ แต่ผมเชื่อว่าหากทุกคนมีความมุ่งหมายทำมันอย่างจริงๆจังๆ ก็สามารถที่จะรับมือกับการแปรเปลี่ยนในครั้งนี้ได้ครับ ..โชคดี..ได้รับการจัดอันดับที่ดี..ทุกๆท่านครับ
ทำไมผมจึงบอกว่า \"เอสอีโอ ยุคใหม่ ต้องเน้นคุณภาพ และปริมาณลิงค์ที่มากกว่าเดิม\" คุณจะสามารถสร้าง ลิงค์คุณภาพ และข้อเขียนคุณภาพ ในปริมาณที่ไม่ต้องมาก เพื่อทำRankingสำหรับ คีย์เวิร์ด ที่มีการแข่งขันต่ำ แต่สำหรับคีย์เวิร์ด ที่มีการขับเคี่ยวกันสูง การปรับ ออนเพจ คุณภาพ และ แบ็คลิ้งค์ คุณภาพ ที่มีปริมาณไม่มาก ไม่สามารถติดRankingได้นิ่งและเสถียรอย่างแน่นอน ผู้ที่ได้เปรียบ คือ เว็บใหญ่ และเว็บที่มีค่า Rank สูงๆ ซึ่งหมายถึง Page Rank , ปริมาณคนเข้าเว็บ, การอัพเดทเว็บอย่างไม่ว่างเว้น คุณภาพของเว็บ ความน่าเชื่อถือของเว็บ ปริมาณการเชื่อมโยงไปยัง โซเชียลเน็ตเวิร์ค ฯลฯ คุณต้องมีเครือข่ายและเว็บในมือที่ใหญ่และสามารถกระจาย Content คุณภาพ ออกสู่สายตาผู้คนจำนวนมาก มันจึงจะสามารถทำให้เว็บคุณมีอันดับที่กระโดดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากการทดลองของผม คุณต้องมีเครื่องมือคุณภาพ และเครื่องมือส่ง content ไปยังเว็บคุณภาพในปริมาณที่มากและเป็นธรรมชาติ หากคุณไม่ทำให้เป็นธรรมชาติ ผลก็คือคุณจะหายไปจากระดับต้นๆ หากคุณทำถูกต้องเว็บคุณจะนิ่งอยู่กับที่และทนแรงเสียดทานจากระบบอัลกอริทึมที่มาตรวจสอบเว็บของคุณได้ หากคุณมีกลยุทธ์หรือวิธีทำให้เว็บของคุณกลายเป็น คีย์เวิร์ด ที่ทุกคนรู้จัก และชื่นชอบ แน่นอน กูเกิ้ล ก็จะชอบเว็บของคุณด้วยเช่นกัน หากมองในอีกด้านหนึ่ง มันจะเป็นประโยคต่อนักทำเว็บขนาดเล็กไหม? หรือมันเป็นการส่งเสริมเว็บใหญ่หรือเว็บที่เป็น Community หรือ เว็บคีย์เวิร์ด หรือเปล่า? และเราฐานะผู้พัฒนาเว็บขนาดเล็ก - ขนาดย่อม จะแข่งกับเว็บใหญ่ได้อย่างไร เราต้องปรับอะไรกับตัวของเราบ้าง เราจะใช้กลยุทธใหม่แข่งขันในตลาดออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นี่คือคำถาม และเราต้องตอบคำถามให้ได้
หากเราเป็น กูเกิ้ล แน่นอนว่าเราต้องการข้อมูลที่สดใหม่ และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงตรง และไม่ถูกบิดเบือน และที่สำคัญเป็นข้อมูลที่ผู้คนหาต้องการ เมื่อกลุ่มผู้ใช้งาน อินเตอร์เน็ต มีการพัฒนาตัวเองในการใช้สื่อOnlineที่แตกต่างจากเดิม มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว และเป็นลักษณะสังคมขนาดใหญ่ ข้อความ หรือข่าวสาร สามารถกระจายถึงกลุ่มคนในเครือข่ายเพียงแค่พริบตาเดียว พฤติกรรมของคนในการใช้ระบบอินเตอร์เน็ต รวดเร็วมากขึ้น เสิร์ชเอนจิ้นก็ต้องปรับให้มันตรวจสอบและสามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคน นักทำ SEO อย่างเราๆท่านๆ ไม่ได้มีกลไกลหรือระบบใหญ่พอที่จะตาม กูเกิ้ล อัลกอริทึ่ม และรองรับระบบ AI ของเสิร์ทเอนจิ้นได้ทัน การทำ seo ณ.วันนี้มันจึงยากขึ้น และหากคนพัฒนาการใช้งานอินเตอร์เน็ตไปอีกขั้น ความยากในการทำ seo ก็จะเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าความรู้พื้นฐาน เอสอีโอ ยังคงใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย แต่ด้วยกำลัง และระบบของการทำ seo ที่มาจากกลุ่มคนหรือเพียงคนๆเดียว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอันดับได้รวดเร็วอีกต่อไป
เราจะรับมือกับความแปรผันนี้อย่างไร? มันเป็นคำถามที่ชวนให้ขบคิดไม่น้อยเลย เพราะเราจะต้องพัฒนาขีดประสิทธิภาพของเราให้แตกต่างไปจากเดิม อัพเกรดและติดเกาะเพื่อทำสงครามอันดับในยุคที่เน้นคุณภาพและปริมาณ คำว่า ปริมาณ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ แบ็คลิ้งค์คุณภาพ เพียงอย่างเดียว คุณต้องทำให้เว็บของคุณ เชื่อมต่อกับ โซเชียลเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่ และเป็นธรรมชาติ คำว่า โซเชียลเน็ตเวิร์ค ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่ facebook, Google+, twitter, youtube เท่านั้น แต่มันคือเครือข่ายสังคมที่เชื่อมโยงเข้าหาเว็บของคุณ และมีการกระจายข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว็บคุณอย่างมีความสัมพันธ์กันในเชิงคุณภาพ นักทำ เอสอีโอ ยุคใหม่ จะต้องมีทักษะความรู้รอบด้าน ทั้งการเขียนโปรแกรม เขียนสคริป เข้าใจคำว่าคุณภาพในมุมมองของ เสิร์ชเอนจิ้น ตลอดจนเป็นผู้ที่มีเครื่องมือ หรือระบบที่สามารถตอบสนองความต้องการของ เสิร์ชเอนจิ้น ที่มีความต้องการด้านข้อมูลข่าวสารในปริมาณที่มาก น่าเชื่อถือ และมีความสัมพันธ์กับเว็บของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยใช่มั้ยล่ะครับ แต่ผมเชื่อว่าหากทุกคนมีความมุ่งหมายทำมันอย่างจริงๆจังๆ ก็สามารถที่จะรับมือกับการแปรเปลี่ยนในครั้งนี้ได้ครับ ..โชคดี..ได้รับการจัดอันดับที่ดี..ทุกๆท่านครับ
ศาสตร์การปรับเว็บไซต์ ของคุณให้กูเกิ้ล รู้จัก
การปรับเว็บไซต์(website)ของคุณให้เสิร์ชเอ็นจิ้น รู้จัก เป็นศาสตร์และเคล็ดลับที่คุณต้องพิจารณาถึง ตั้งแต่คุณวางแผนการริเริ่มสร้างเว็บไซต์(website) หรือสำหรับบางท่านที่มีเว็บไซต์ อยู่แล้ว ก็ควรที่จะวางแผนปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้เสิร์ชเอ็นจิ้น รู้จักได้โดยเร็ว มีตัวอย่างเว็บไซต์เกลอผมเว็บไซต์หนึ่ง หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย นอกเหนือจากการปรับแต่งเว็บไซต์ของเค้าให้ เสิร์ชเอ็นจิ้น รู้จัก แต่ตอนหลังจากนั้น เว็บไซต์แห่งนั้นก็มีเงินรายได้จากการขายของได้อย่างไม่ขาดสายทุกวัน โดยที่เค้าไม่ต้องทำการตลาดอะไรอีกเลย เพราะ เสิร์ชเอ็นจิ้น ได้รู้จักเว็บไซต์ของเค้าแล้ว และส่งคนเข้ามาที่Website ของเค้าอย่างไม่ขาดระยะ โดยที่ไม่ต้องเสียรายจ่ายอะไรเลย ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ มันคือการจัดแจง seo On Page อ่านต่อที่ http://www.pattarayut.com
Title tags กับการจัดแจง Search Engine Optimization (SEO)
Title tags นั้นตามปกติจะใช้บอกชื่อหน้าของเว็บเพจ ซึ่งจะแสดงผลอยู่ด้านบนสุดของ web browser เป็นส่วนที่ถือว่าสลักสำคัญในการทำ SEO เพราะผลลัพธ์ในการค้นหาที่ได้นั้นจะบอกผลเนื้อหาที่อยู่ใน Title tags ก่อน
Title optimize SEO หากเราสังเกตจะพบว่า 1 ใน 10 หรืออันดับต้นๆที่เป็นผลลัพธ์จากการค้นของของ Search Engine นั้นไม่มีผลลัพธ์ใดเลยที่ไม่มีคำที่ค้นหา (Keyword) อยู่ใน Title tags แท้จริงว่า keyword ที่อยู่ในเนื้อหา หรือ body tags นั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน แต่มันจะดีกว่าหากเราให้ความสำคัญตั้งแต่ชื่อของเว็บเพจ โดยพิจราณา หัวข้อดังต่อไปนี้ก่อนการตั้งชื่อให้กับเว็บเพจ
Keyword สำคัญที่ต้องการให้ค้นหาเจอ หรือ keyword ที่เป็นตัวแทนของเว็บเพจนั้น จะต้องอยู่ใน Title tag
ความยาวไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร หรือประมาณ 7 ถึง 10 คำ
ควรทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านได้ง่าย
ไม่ควรใส่ชื่อหน้า เช่น หน้าแรก , ติดต่อเรา หรือ สินค้าของเรา เพราะไม่สื่อถึงความหมาย และผู้ใช้งานก็ไม่ได้ใช้คำพวกนี้ในการค้นหา
พยายามให้ keyword ที่ต้องการนั้นอยู่ชิดกัน เช่น ขายรถยนต์ Toyota ปี 1990 ไม่ควรใช้เป็น ขายรถ ปี 1990 ยี่ห้อ Toyota เพราะให้หัวข้อนี้เราต้องการเน้น keyword 2 ตัวคือ รถยนต์ และ Toyota
ควรให้ Keyword อยู่เป็นคำแรกใน Title tags
ไม่ควรใช้ Keyword ใน Title tags ซ้ำกัน เพราะจะทำให้คำนั้นกลายเป็นขยะไป
จัดลำดับของ Keyword ก็มีจุดสำคัญ เช่น Toyota Yaris ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Yaris Totota เพราะด้วยความคุ้นเคยที่เรามักจะค้นหาด้วยยี่ห้อของรถก่อน จากนั้นจึงใส่ชื่อรุ่น หรืออาจเป็นเพราะการโฆษณาที่ทำให้เราเคยชินกับชื่อ Totota Yaris
สุดท้ายนี้ Keyword อาจสำคัญสำหรับการทำ SEO ก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำเว็บไซต์คือ เราทำให้คนอ่านไม่ใช่ให้คอมพิวเตอร์อ่าน ทางทีมงานจึงขอเสนอแนะว่าควรใช้คำที่มีความสำคัญ และสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด จึงจะมีค่ามากที่สุด
ที่มา : http://www.pattarayut.com
เค้าโครง : hellomyweb.com
Title optimize SEO หากเราสังเกตจะพบว่า 1 ใน 10 หรืออันดับต้นๆที่เป็นผลลัพธ์จากการค้นของของ Search Engine นั้นไม่มีผลลัพธ์ใดเลยที่ไม่มีคำที่ค้นหา (Keyword) อยู่ใน Title tags แท้จริงว่า keyword ที่อยู่ในเนื้อหา หรือ body tags นั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน แต่มันจะดีกว่าหากเราให้ความสำคัญตั้งแต่ชื่อของเว็บเพจ โดยพิจราณา หัวข้อดังต่อไปนี้ก่อนการตั้งชื่อให้กับเว็บเพจ
Keyword สำคัญที่ต้องการให้ค้นหาเจอ หรือ keyword ที่เป็นตัวแทนของเว็บเพจนั้น จะต้องอยู่ใน Title tag
ความยาวไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร หรือประมาณ 7 ถึง 10 คำ
ควรทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านได้ง่าย
ไม่ควรใส่ชื่อหน้า เช่น หน้าแรก , ติดต่อเรา หรือ สินค้าของเรา เพราะไม่สื่อถึงความหมาย และผู้ใช้งานก็ไม่ได้ใช้คำพวกนี้ในการค้นหา
พยายามให้ keyword ที่ต้องการนั้นอยู่ชิดกัน เช่น ขายรถยนต์ Toyota ปี 1990 ไม่ควรใช้เป็น ขายรถ ปี 1990 ยี่ห้อ Toyota เพราะให้หัวข้อนี้เราต้องการเน้น keyword 2 ตัวคือ รถยนต์ และ Toyota
ควรให้ Keyword อยู่เป็นคำแรกใน Title tags
ไม่ควรใช้ Keyword ใน Title tags ซ้ำกัน เพราะจะทำให้คำนั้นกลายเป็นขยะไป
จัดลำดับของ Keyword ก็มีจุดสำคัญ เช่น Toyota Yaris ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Yaris Totota เพราะด้วยความคุ้นเคยที่เรามักจะค้นหาด้วยยี่ห้อของรถก่อน จากนั้นจึงใส่ชื่อรุ่น หรืออาจเป็นเพราะการโฆษณาที่ทำให้เราเคยชินกับชื่อ Totota Yaris
สุดท้ายนี้ Keyword อาจสำคัญสำหรับการทำ SEO ก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำเว็บไซต์คือ เราทำให้คนอ่านไม่ใช่ให้คอมพิวเตอร์อ่าน ทางทีมงานจึงขอเสนอแนะว่าควรใช้คำที่มีความสำคัญ และสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด จึงจะมีค่ามากที่สุด
ที่มา : http://www.pattarayut.com
เค้าโครง : hellomyweb.com
Subscribe to:
Posts (Atom)